TKP HEADLINE

Showing posts with label 02.แหล่งเรียนรู้. Show all posts
Showing posts with label 02.แหล่งเรียนรู้. Show all posts

เกษตรอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ "เพื่อชีวิต" : แหล่งเรียนรู้

 เกษตรอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ "เพื่อชีวิต"


ความเป็นมาของการทำเกษตรอินทรีย์

สมัยก่อนนายประเทือง ธิบดี ประกอบอาชีพรับจ้างอยู่ในกรงเทพมหานคร ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้การทำงานหมดลู่ทางในการประกอบอาชีพ จึงหันมาทำการเกษตรในที่ดินของตนเองในบ้านเกิด เริ่มจากการปลูกผักสวนครัวไว้กินเองก่อน ซึ่งผักทั้งหมดเป็นผักปลอดสารพิษ ที่ไม่ใช้สารเคมีในการบำรุงรักษา หลังจากนั้นจึงขยายพื้นที่รอบบ้านให้กลายเป็นแปลงผักสวนครัว หลากหลายชนิด และทำสวนลำไยที่ใช้เกษตรอินทรีย์ในการดำเนินงานทั้งหมด ...อ่านเพิ่มเติม









สวน สาม แสน : แหล่งเรียนรู้

 สวน สาม แสน


“สวนสามแสน” ความภูมิใจของชาวอำเภอลี้ ซึ่งได้ดำเนินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงโดยประชาชนได้รวมกลุ่มปลูกผักปลอดภัย สร้างรายได้ให้ชุมชน

จังหวัดลำพูนเชิญชวน นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือน อำเภอลี้ เยี่ยมชม และชิมผลผลิตการเกษตรปลอดสารพิษ ที่สวนสามแสน ต.ลี้ อ.ลี้ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเลือกชมและเก็บผลผลิตการเกษตรจากสวนเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีพืชผักผลไม้นานาชนิด

อำเภอลี้เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดลำพูน มีพื้นที่ 1,702 ตารางกิโลเมตร เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลำพูน 105 กิโลเมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ซึ่งมีพื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ในช่วงฤดูหนาว  (เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) สภาพอากาศจะเย็นสบายเหมาะสำหรับเดินทางมาท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวิถีชีชีวิตอันเรียบง่ายในการทำเกษตรของประชาชน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 106  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลำพูนก็ได้ส่งเสริมอำเภอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ ของจังหวัดลำพูน โดยนายสำเริง ไชยเสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ไปเยี่ยมชม “ สวนสามแสน ” สถานที่ท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ...อ่านเพิ่มเติม








การทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง : แหล่งเรียนรู้

 การทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง



            อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน มีพื้นที่เป็นแหล่งปลูกลำไยขนาดใหญ่ ทุกปีจะมีเศษใบลำไยจากสวนของเกษตรกรและจากโกดังรับซื้อลำไยเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาในการกำจัด ซึ่งโดยปกติจะใช้วิธีการเผาทำลาย และยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนการทำเกษตรกรรมสูง โดยเฉพาะปัญหาราคาปุ้ยเคมีที่สูงขึ้น รวมถึงปัญหาดินในสวนลำไยเสื่อมโทรม จึงได้จัดตั้งฐานเรียนรู้การผลิตปุ้ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกองขึ้น เพื่อให้มีการจัดการเศษใบลำไยที่มีจำนวนมาก แล้วนำมาทำปุ้ยอินทรีย์เพื่อบำรุงดินและลดตันทุนการผลิตของเกษตรกร
            ในการเพาะปลูกของเกษตรกร สิ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญที่สุดคือความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความอุดมสมบูรณ์ของดินจะได้มาจากการที่มีอินทรีย์วัตถุสะสมอยู่ในดินอยู่มาก จุลินทรีย์ดินจะใช้อินทรีย์วัตถุเป็นสารอาหารแล้วปลดปล่อยแร่ธาตุที่จำเป็นให้แก่พืชในปริมาณที่พืชต้องการอย่างเพียงพอ ซึ่งได้แก่ ธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-N ฟอสฟอรัส-P2O5 และโพแทสเซียม-K2O) ธาตุอาหารรอง (ซัลเฟอร์ แคลเซียม และแมกนีเซียม) และจุลธาตุ (แมงกานีส ทองแดง โบรอน โมลิบดินัม เหล็ก คลอรีน นิกเกิ้ล และสังกะสี) การเติมความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินวิธีหนึ่งคือการใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์ (Compost) ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มธาตุอาหารให้กับพืชแล้ว ปุ๋ยอินทรีย์ยังช่วยลดความเป็นกรดของดินที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าหญ้าอย่างยาวนานได้อีกด้วย ทำให้เชื้อโรคในดิน เช่น โรครากเน่า เป็นต้น ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะเชื้อโรคศัตรูพืชจะชอบอยู่ในดินที่เป็นกรดเท่านั้น นอกจากนี้ ในอดีตก่อนที่จะมีการผลิตปุ๋ยเคมีขึ้นในโลก เกษตรกรในประเทศไทยก็ได้มีการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินในการเพาะปลูกโดยการใช้มูลสัตว์ต่าง ๆ เช่น มูลโค มูลกระบือ และมูลไก่ เป็นต้น มาโดยตลอด ประเทศไทยในขณะนั้นสามารถส่งออกข้าวเป็นที่ 1 ของโลกได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีปุ๋ยเคมีใช้ ...อ่านเพิ่มเติม














แหล่งเรียนรู้ชุมชน"วัดป่าก่อ" : แหล่งเรียนรู้

 แหล่งเรียนรู้ชุมชน"วัดป่าก่อ"




ประวัติวัดป่าก่อ วัดป่าก่อตั้งอยู่ที่บ้านป่าก่อ หมู่ ๑๐ ตำบลตะเคียนปม อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน เริ่มก่อสร้างเป็นอารามที่พำนักสงฆ์ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ โดยความร่วมมือ ร่วมรง ร่วมใจ ของชาวบ้านป่าก่อ นำโดยพระสมศักดิ์ วงศ์อ้าย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่บ้านป่าก่อ ด้วยสำนึกรักบ้านเกิด เห็นว่าหมู่บ้านป่าก่อเป็นชุมชนขนาดกลาง สมควรมีวัดเพื่อประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนา จึงได้ปรึกษาหารือนายสุภา ตาแก้ว ผู้ใหย่บ้านป่าก่อในขณะนั้น ผู้เฒ่าผู้แก้อาวุโสศรัทธาพี่น้องชาวบ้าน ว่าสมควรจะสร้างอารามที่พำนักสงฆ์ขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อจะได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ไม่ต้องไปทำบุญที่หมู่บ้านอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป ในลำดับแรกหลังจากที่ประชุมมีมติให้สร้างเป็นอารามที่พำนักสงฆ์ ได้รับการสนับสนุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมจำนวน ๑ หลังจากองค์การบริหารส่วนตำบลตะเคียนปม ต่อมาพระสมศักดิ์ วงศ์อ้ายได้ทำโครงการเสนอไปยังสภานิสิตวิทยาลัยสงฆ์ลำพูน ได้รับงบประมาณสร้างกุฏิที่พำนักสงฆ์ จำนวน ๑ หลัง เป็นเงิน ๔๐,๐๐๐.-บาท ในการสร้างกุฏิที่พำนักสงฆ์ งบประมาณที่ได้รับใช้จ่ายเป็นค่าวัสดุ ส่วนการก่อสร้าง ใช้แรงงานจากชาวบ้านช่วยกันจนเสร็จ และทำพิธีถวายกุฏิพำนักสงฆ์ในวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๐ โดยใช้ชื่อกุฏิที่พำนักสงฆ์ว่า"กุฏิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช ๘๐ พรรษา" ...อ่านเพิ่มเติม








วัดบ้านเวียงหนองล่อง : แหล่งเรียนรู้



วัดบ้านเวียงหนองล่อง




                เวียงหนองล่อง เป็นชื่อของหมู่บ้านหนึ่งในอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ลักษณะทางภูมิศาสตรตั้งอยู่บนที่ดอนน้ำไม่ท่วมขัง เป็นที่ตั้งของชุมชนเก่า แต่ปัจจุบันสิ่งก่อสร้าง ที่คาดว่าเป็นโบราณสถานเช่นเจดีย์กำแพงเมืองคูน้ำล้อมรอบเมือง ได้ชำรุดปรักหักพัง แต่ก็ยังพอมีร่องรอยให้เห็นอยู่บ้าง โบราณสถานใน “เวียงหนองล่อง” ที่พบเป็นเจดีย์ ทรงสี่เหลี่ยม เรียกว่า“กู่ขาว”มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมโดยการเรียงอิฐที่ส่วนโค้ง ของซุ้มประตูแบบพุกามมีลักษณะไม่เหมือนเจดีย์แบบทราวดี เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม และเทคนิคการก่อสร้างพบว่าเจดีย์องค์นี้น่าจะมีอายุสมัยหลังจากพม่ายึดครองล้านนาคือหลัง พ.ศ. 2200 และชุมชนโบราณแห่งนี้น่าจะมีอายุสมัยไล่เลี่ยกับเจดีย์องค์นี้ สันนิษฐานว่าเวียงหนองล่องถูกสร้างขึ้นมาไว้เพื่อเป็นเมืองหน้าด่านป้องกันการยกทัพโจมตีจากทัพพม่า 

วัดบ้านเวียงหนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน 

วัด เวียงหนองล่อง ตั้งอยู่เลขที่ 200 บ้านเวียงหนองล่อง ถนนสายบ้านโฮ่งลำพูน หมู่ที่ 6 ตำบลวังผาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 6 ไร่ 38 ตารางวา โฉนดเลขที่ 11412

 

อาณาเขต ทิศเหนือประมาณ 58 วา จดทางสาธารณะ ทิศใต้ประมาณ 58 วา จดทางสาธารณะ ทิศตะวันออกประมาณ 38 วา จดลำเหมืองสาธารณะ ทิศตะวันตดประมาณ 40 วา จดทางสาธารณะ มีที่ธรณีสงฆ์จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 26 ตารางวา โฉนดเลขที่ 11255 และ 11625

 

อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอไตรและศาลาโรงฉัน

 

วัดบ้านเวียงหนองล่อง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2436 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2501 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร ปัจจุบันมีพระครูสุปุญญาภิราม เป็นเจ้าอาวาส และอนุเคราะห์ให้จัดตั้งโรงเรียนประถมศึกษาบนที่ดินของวัด เนื้อที่ 3 ไร่ 63 ตารางวา  ...อ่านเพิ่มเติม







เกษตรทฤษฏีใหม่ : แหล่งเรียนรู้

เกษตรทฤษฏีใหม่



            จากปัญหาการทำเกษตรของไทยที่เกษตรกรขาดที่ดินทำกิน ทั้งยังต้องดิ้นรนทำในปริมาณมาก เป็นหนี้เป็นสิน ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำมาแต่ได้น้อยเนื่องจากปลูกเฉพาะพืชเชิงเดี่ยว ราคาขายผลผลิตไม่เพียงพอต่อการบริโภค ด้วยอัฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้พระราชทาน “ทฤษฎีใหม่” ในการจัดการพื้นที่ขนาดเล็กประมาณ 15 ไร่ เน้นการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนด้วยการจัดการไร่นาอย่างเหมาะสม มีการจัดสรรแหล่งน้ำที่ใช้ในการเกษตรแบบผสมผสานให้ใช้ได้ในหน้าแล้ง ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรเลี้ยงตัวเองได้ มีรายได้และอาหารไว้บริโภคตลอดปี เป็นการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนสำหรับเกษตรกรชาวไทย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสว่า “…ถึงบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ สองอย่างนี้จะทำความเจริญแก่ประเทศได้ แต่ต้องมีความเพียร แล้วต้องอดทน ต้องไม่ใจร้อน…” ...อ่านเพิ่มเติม










สวนเกษตรธรรมชาติแสงจันทร์ : แหล่งเรียนรู้

สวนเกษตรธรรมชาติแสงจันทร์


            เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากสถาบันเรียนรู้ท้องถิ่นจังหวัดลำพูน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ขอความร่วมมือในการจัดเก็บข้อมูลของประชาชนในตำบลหนองล่อง เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างโครงการสานพลังท้องถิ่น สร้างสุขภาวะตำบลน่าอยู่ ซึ่งพอดีกับทางแหล่งเรียนรู้ชุมชนสวนเกษตรธรรมชาติแสงจันทร์ ได้มีแนวคิดที่จะหาทางในการลดรายจ่ายในเรื่องของการใช้ปุ๋ยและสารเคมีในการเกษตร เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ชุมชนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับข้อมูลที่ได้จากการจัดเก็บข้อมูล ได้ผลการวิเคราะห์ สังเคราะห์ของชุมชนในระยะเวลา ๓  เดือน ของการเก็บข้อมูล เราได้พบปัญหาภาวะหนี้สินที่เกิดจากการใช้จ่ายของประชาชนในตำบลหนองล่อง โดยหนี้สินที่พบมากที่สุดคือ หนี้สินเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ หนี้สินเกี่ยวกับการดำรงชีวิตประจำวัน จากการเก็บข้อมูลยังพบอีกว่า ปริมาณในการใช้ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ฮอร์โมน และสารเคมีต่างๆของประชาชนมีมูลค่าหลายล้านบาทต่อปี จึงเป็นแรงผลักดันให้ แหล่งเรียนรู้ชุมชนสวนเกษตรธรรมชาติแสงจันทร์ ได้ทำตามหลักภูมิปัญญา และหลักความคิดของตนเองให้เกิดผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงหันมาเลี้ยงไส้เดือนดินอย่างจริงจัง จึงเกิดแหล่งเรียนรู้ชุมชนสวนเกษตรธรรมชาติแสงจันทร์ (ไส้เดือนดิน) เพื่อจุดประสงค์หลักคือ

            1. หันมาใช้หลักธรรมชาติบำบัด

            2. หันมาใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง

            3. ลดรายจ่ายในเรื่องของปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ฮอร์โมน และสารเคมีต่างๆในการเกษตร

            4. เพื่อผลิตอาหารที่ปลอดภัยสำหรับใช้บริโภค

            5. เพื่อปรับสภาพดิน สร้างความร่มรื่น สร้างสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่

            6. เพื่อช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับสุขภาพที่ดีของคนในชุมชน

            7. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้   ...อ่านเพิ่มเติม










ศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง (หนองปลิง) : แหล่งเรียนรู้

 ศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง (หนองปลิง)




ประวัติความเป็นมา

ศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงหนองปลิง เทศบาลตำบลวังผาง ตั้งอยู่ ณ บ้านเลขที่ 324 หมู่ที่ 1 บ้านเหล่าแมว มีพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 110 ไร่ โดยครั้งแรกเทศบาลตำบลวังผางได้รับบริจาคจากบริษัทลำพูนการเกษตรเจ้าของที่ดินเดิม จำนวน 102 และซื้อเพิ่มอีก 8 ไร่ ให้ชุมชนมี ส่วนร่วมในการวางแผนการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมภายในศูนย์ฯ ให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในชุมชน โดยได้คัดเลือกผู้แทนเกษตรกรในชุมชนทั้ง 11 หมู่บ้านในเขตเทศบาลเข้ามาร่วมวางแผนออกแบบกิจกรรมภายในศูนย์ โดยงบประมาณในการดำเนินการได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากเทศบาลตำบลวังผางและหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาทำงานแบบบูรณาการในพื้นที่

ศูนย์เรียนรู้เกษตรพอเพียงเทศบาลตำบลวังผาง ดูแลรับผิดชอบโดยงานส่งเสริมการเกษตร สำนักปลัดเทศบาล มีพนักงานและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในศูนย์ฯ จำนวน 8 คน ให้บริการเกษตรกรและผู้สนใจอาชีพด้านการเกษตร จำนวน 11 หมู่บ้าน ที่มีอาชีพหลักด้านการเกษตร และมีพื้นที่ทำการเกษตร ในตำบลวังผาง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรและที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การแปรรูปผลผลิตหลักในชุมชน เช่น ลำไย มะม่วง ข้าว พืชผักและอื่นๆ รวมทั้งเป็นให้เป็นศูนย์กลางในด้านการอบรม เป็นแหล่งเรียนรู้งานด้านการเกษตรอย่างครบวงจร ...อ่านเพิ่มเติม












ข้อคิดเห็นจากเครือข่าย TKP

 
Copyright © 2018 ศูนย์ข้อมูลความรู้ประชาชนจังหวัดลำพูน. Designed by OddThemes > Developed by mediathailand